การขนส่งในประเทศไทย
การขนส่งในประเทศไทย มีความหลากหลายและยังไม่มีความเป็นระเบียบ การขนส่งแต่ละประเภทไม่มีความโดดเด่นมากนัก ได้แก่ ระบบการขนส่งทางถนน ที่เป็นหลักของการขนส่งสินค้าทั่วประเทศ การขนส่งทางรถประจำทางที่มีการขนส่งระยะไกลไปยังจังหวัดต่าง ๆ มีการใช้รถจักรยานยนต์เพื่อใช้การเดินทางระยะสั้นแทนการใช้จักรยาน การใช้รถยนต์ส่วนตัวซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมีส่วนทำให้การจราจรเกิดความแออัดทั้งในกรุงเทพมหานครและเมืองสำคัญต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีการขนส่งระบบรางที่เชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่าง ๆ แต่ยังมีความล่าช้า ถึงแม้จะมีแผนขยายการให้บริการที่มีรถไฟความเร็วสูงไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศก็ตาม การขนส่งทางอากาศภายในประเทศ ซึ่งในปัจจุบันยังมีสายการบินไม่มากนัก แต่ยังมีความโดนเด่นด้วยวิธีการขนส่งที่มีความแปลกใหม่จากสายตาของชาวต่างประเทศ เช่น รถตุ๊กตุ๊ก รถสองแถว เป็นต้น ทั้งนี้ สถาบันการจัดการนานาชาติ (International Institute for Management Development: IMD) ได้จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 28 จาก 64 เขตเศรษฐกิจ[1]
ระบบราง
รถไฟทางไกล
การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดให้บริการเดินรถในความยาวเส้นทางทั้งสิ้น 4,507 กิโลเมตร จำนวน 666 สถานี/ที่หยุดรถ ในรางขนาด 1 เมตร (เป็นทางเดี่ยว 4,097 กิโลเมตร ทางคู่ 303 กิโลเมตร และทางสาม 107 กิโลเมตร)
รายชื่อจังหวัดที่มีทางรถไฟทางไกล |
- การเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในปัจจุบัน
- ประเทศกัมพูชา : สายอรัญประเทศ–ปอยเปตเชื่อมต่อจากสถานีด่านพรมแดนบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้ว ไปยังสถานีปอยเปต จังหวัดบันทายมีชัย
- ประเทศพม่า (อดีตรัฐพม่า) : เคยมีทางรถไฟสายกาญจนบุรีเชื่อมต่อจากสถานีด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี ไปยังสถานีจันการายา เขตตะนาวศรี (ปัจจุบันรัฐกะเหรี่ยง) ยกเลิกการใช้งานเมื่อ พ.ศ. 2488 (ปัจจุบันมีโครงการฟื้นฟูเส้นทางในอนาคต)
- ประเทศมาเลเซีย : สายชุมทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์เชื่อมต่อจากสถานีปาดังเบซาร์ (ไทย) จังหวัดสงขลา ไปยังสถานีปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส สามารถเดินทางต่อได้ถึงประเทศสิงคโปร์
- ประเทศลาว : สายหนองคาย–ท่านาแล้งเชื่อมต่อจากสถานีหนองคาย จังหวัดหนองคาย สิ้นสุดสถานีท่านาแล้ง นครหลวงเวียงจันทน์
รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองเดียวที่มีระบบรถไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วย 3 ระบบ คือ รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้ามหานคร และรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในอนาคต อาจมีความยาวเกือบ 400 กิโลเมตร ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล นอกจากนี้ ยังมีโครงรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนตามหัวเมืองในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบโครงการ
รายชื่อจังหวัดที่มีทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน |
รถไฟฟ้าบีทีเอส
ชื่อทางการคือ รถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ดำเนินการโดย บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี (BTSC) และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ เคที (KT) เริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 เปิดบริการตั้งแต่เวลา 6 นาฬิกาถึง 24 นาฬิกา
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ในโอกาสที่เปิดบริการมาครบ 9 ปี ปรากฏว่า มียอดมีผู้ใช้บริการตั้งแต่เปิดให้บริการ 972,034,298 เที่ยว มีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟฟ้าเฉลี่ยวันทำการ 424,369 เที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.6 โดยในปี พ.ศ. 2551 นี้มีผู้ใช้บริการสูงสุดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2551 จำนวน 497,390 เที่ยว [2] และในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 มีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟฟ้าเฉลี่ยในวันทำการสร้างสถิติใหม่สูงสุดเท่ากับ 509,106 เที่ยวต่อคน [3]
และผลดำเนินงานบริการรถไฟฟ้าบีทีเอสในรอบบัญชีเดือนเมษายน พ.ศ. 2554 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 มียอดผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 176,028,556 เที่ยวคน เพิ่มขึ้นจากงวดปีที่ผ่านมาร้อยละ 21.24 และเมื่อพิจารณาจากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันภาพรวมปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 18.26 เป็น 480,952 เที่ยวคน ซึ่งวันที่ 30 มีนาคม 2555 นับว่าเป็นวันที่ทุบสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่เปิดให้บริการมา มีผู้มาใช้บริการถึง 714,575 เที่ยวคน[4]
ในวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2560 สถานีสำโรงได้เปิดใช้บริการและเป็นวันที่ รถไฟฟ้าบีทีเอส ให้บริการผู้โดยสารเชื่อมต่อระหว่าง กรุงเทพมหานคร และ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นวันแรก ปัจจุบันให้บริการครอบคลุม 3 จังหวัดคือ จังหวัดปทุมธานี กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ ระยะทางรวม 68.25 กิโลเมตร จำนวน 60 สถานี
รถไฟฟ้ามหานคร
รถไฟฟ้ามหานครที่เปิดให้บริการแล้วในปัจจุบันได้แก่ รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ดำเนินการโดยบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) โดยได้รับสัมปทานจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) และหลังจากที่เกิดความล่าช้าขึ้นหลายครั้ง ในที่สุดได้เปิดให้สาธารณชนทดลองใช้งานในวงจำกัดเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กรกฎาคม ปีเดียวกัน ปัจจุบันให้บริการครอบคลุม 2 จังหวัดคือ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดนนทบุรี ระยะทางรวม 70.6 กิโลเมตร จำนวน 53 สถานี
รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยาน
เป็นส่วนหนึ่งในโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าในระบบรถไฟฟ้าชานเมือง โดยรัฐบาลได้นำโครงการนี้มาเป็นโครงการเร่งด่วนและแยกการก่อสร้างต่างหากจากระบบรถไฟฟ้าชานเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ดำเนินการก่อสร้างโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โดย บริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จำกัด
สำหรับยอดผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เต็มรูปแบบวันแรกเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553 มีผู้โดยสารใช้บริการในระบบซิตี้ไลน์ 26,149 คน จากเป้าที่ตั้งไว้ 15,000 คน ส่วนรถด่วนมีผู้ใช้บริการ 633 คน ทั้งนี้คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีผู้ใช้บริการประมาณ 5-7 หมื่นคน[5]
รถไฟฟ้าที่ใช้ในโครงการทั้งหมดเป็นรถไฟฟ้าประเภทความเร็วสูง ซึ่งมีความเร็วปกติอยู่ที่ 160-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่มีความเร็วขณะเข้าประแจที่ 40-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีความเร็วขณะเข้าประแจลงศูนย์ซ่อมบำรุงที่ย่านคลองตันที่ 125 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปัจจุบันให้บริการครอบคลุม 2 จังหวัดคือ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ ระยะทางรวม 28.6 กิโลเมตร จำนวน 8 สถานี
รถไฟฟ้าชานเมือง
เป็นระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลตลอดจนพื้นที่ต่อเนื่องคือ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดราชบุรี ดำเนินการโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพมหานครและพื้นที่ต่อเนื่อง มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับคุณภาพในการให้บริการของรถไฟชานเมืองซึ่งทำหน้าที่ในการบริการขนส่งผู้โดยสารที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชานเมืองตลอดจนพื้นที่ต่อเนื่องสามารถเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพมหานครได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบรางที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และยังเป็นการป้อนผู้โดยสารเข้าสู่โครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนอื่นในเขตกรุงเทพมหานครอันได้แก่ รถไฟฟ้ามหานคร ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รถไฟฟ้าบีทีเอส ของ กรุงเทพมหานคร (กทม.) หรือแม้กระทั่งรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปัจจุบันมี 2 สาย ระยะทางรวม 37.6 กิโลเมตร จำนวน 13 สถานี
รถราง
รายชื่อจังหวัดที่เคยมีทางรถราง |
ในอดีตประเทศไทยก็เคยมีการใช้รถราง โดยรถรางกรุงเทพเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2431 โดยเปิดสายบางคอแหลมเป็นสายแรกเมื่อเริ่มแรกใช้กำลังม้าลากรถไปตามราง ทำให้ใช้เวลาการเดินทางมาก จึงไม่เป็นที่นิยม ภายหลังเปลี่ยนมาใช้กำลังไฟฟ้าเมื่อ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2437 และจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2511 ได้ยกเลิกการเดินรถทุกเส้นทางอย่างถาวร
ส่วนเส้นทางในต่างจังหวัดมีสองสายคือ รถรางลพบุรี และทางรถไฟสายปากน้ำ ที่ใช้รถรางวิ่งแทนรถไฟตั้งแต่ พ.ศ. 2468
ระบบถนน
โครงข่ายถนน
ตรอกและซอย
ตรอก เป็นประเภทของถนนที่มีขนาดเล็กที่สุด ซึ่งบางครั้งยานพาหนะขนาดใหญ่อย่างรถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้ มักจะพบการขนส่งโดยใช้วิธีเดินเท้า จักรยาน หรือรถจักรยานยนต์ ส่วนมากแล้วจะอยู่ในเขตเมือง ส่วนซอย จะเป็นถนนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาระดับหนึ่ง บางแห่งรถยนต์สามารถเข้าได้ แต่ไม่สามารถวิ่งสวนทางกันได้ จึงมีการจัดการจราจรให้เดินรถทางเดียว หรือบางแห่งเป็นซอยที่มีขนาดใหญ่เทียบเท่าถนน สำหรับชื่อของซอย มักจะตั้งชื่อตามถนนที่ซอยนั้นแยกออกมา เช่น ซอยสุขุมวิท 55 หรือ ถนนทองหล่อ เป็นซอยที่แยกออกมาจากถนนสุขุมวิท เป็นต้น
ถนน
ถนนมีทั้งถนนในเมืองและถนนที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ถนนบำรุงรักษาโดยหน่วยงานท้องถิ่น หรือถนนในเมืองบางแห่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายทางหลวง ซึ่งจะมีการกำกับรหัสหมายเลขทางหลวงนั้น ๆ ในจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นจังหวัดที่มีการลงทุนในเรื่องโครงข่ายถนนในเมืองและในจังหวัดเป็นเงินจำนวนมาก
ทางหลวง
ทางหลวงในประเทศไทยมีหลายประเภท ได้แก่ ทางหลวงพิเศษ ทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท ทางหลวงท้องถิ่น ทางหลวงสัมปทาน ระบบทางหลวงในประเทศไทยมีความยาวรวม 64,600 กิโลเมตร ลาดยางแล้ว 62,985 กิโลเมตร และยังไม่ได้ลาดยาง 1,615 กิโลเมตร (ข้อมูลปี พ.ศ. 2539) ทางหลวงแผ่นดินสายหลักในประเทศไทย ได้แก่ ถนนพหลโยธิน ถนนมิตรภาพ ถนนสุขุมวิท และถนนเพชรเกษม ทางหลวงบางแห่งได้รับการกำหนดให้เป็นทางหลวงสายเอเชีย นอกจากนี้ยังมีทางหลวงพิเศษ ซึ่งเป็นทางหลวงประเภทหนึ่ง แต่มีการควบคุมการเข้าออก และเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ทางหลวงพิเศษและทางพิเศษ
ทางพิเศษเป็นถนนที่มีการควบคุมการเข้าออก และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัดในเขตเมืองสำคัญต่าง ๆ แต่ได้ดำเนินการก่อสร้างเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเท่านั้น ส่วนทางพิเศษในเมืองสำคัญต่าง ๆ ยังเป็นโครงการและยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง ส่วนทางหลวงพิเศษเป็นโครงข่ายทางหลวงที่เชื่อมโยงระหว่างเมืองในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันมีทางหลวงพิเศษเพียง 2 สาย ได้แก่ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และถนนกาญจนาภิเษก
การขนส่งผู้โดยสารทางถนน
รถประจำทาง
รถโดยสารระหว่างจังหวัด
รถโดยสารระหว่างจังหวัดให้บริการโดย บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และบริษัทเอกชนอีกหลายบริษัท โดยมีสถานีรถโดยสารในกรุงเทพมหานคร สามแห่ง คือ หมอชิต2 สถานีขนส่งสายใต้ และสถานีขนส่งเอกมัย
รถโดยสารระหว่างประเทศ
บขส. ได้เปิดการเดินรถไปยังประเทศลาว และประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ยังมีบริษัทเดินรถอีกหลายแห่งที่เปิดเส้นทางระหว่างประเทศ
รถโดยสารประจำทาง
รถประจำทางเป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่อย่างหนึ่งในไทย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่เช่นกรุงเทพมหานคร ระบบรถเมล์ประจำทางให้บริการโดย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก) ถือเป็นระบบที่ขนส่งผู้โดยสารระบบหนึ่ง และยังมีอีกหลายจังหวัดที่มีรถโดยสารประจำทาง
รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ
ประจำทางด่วนพิเศษบริการเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑลได้แก่ รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถ ปรับอากาศพิเศษ (ปอ.พ)บริการในกรุงเทพมหานครของ บริษัท พรีเมียร์ เมโทรบัส[6]
รถโดยสารเข้าเมือง
เป็นรถโดยสารที่ขนส่งผู้โดยสารจากท่าอากาศยานเข้ามาในเขตเมือง
รถประจำทางประเภทอื่น
ประเทศไทยยังมีรถประจำทางอีกจำนวนมากที่ให้บริการ เช่น สองแถว กระป้อ เป็นต้น
รถวิ่งชมเมือง
กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองเดียวที่มีรถวิ่งชมเมืองบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งประกอบด้วย 2 เส้นทางคือ รถรางสายรอบกรุงรัตนโกสินทร์[7] และรถรางเยาวราช[8](ปิดบริการชั่วคราว)
รถรับจ้าง
รถรับจ้างมีหลายประเภท เช่น รถแท็กซี่ ระบบมิเตอร์บริการในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล นครราชสีมา อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ภูเก็ต หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช อุบลราชธานี และเชียงใหม่ รวมทั้งมอเตอร์ไซค์รับจ้างตามหน้าปากซอยและสถานที่สำคัญ ตุ๊กตุ๊กและรถสามล้อ มีให้บริการเช่นกัน
อุบัติเหตุทางถนน
ทางอากาศ
ท่าอากาศยาน
ท่าอากาศยาน มีจำนวนทั้งสิ้น 106 แห่ง (ข้อมูลปี พ.ศ. 2542) ท่าอากาศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและรองรับผู้โดยสารได้มากที่สุดในประเทศไทย คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ ยังมีท่าเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 17 แห่ง (ข้อมูลปี พ.ศ. 2550)
สภาพ | ความยาว (เมตร) | รวม | ||||
---|---|---|---|---|---|---|
ยาวกว่า 3,047 | 2,438-3,047 | 1,524-2,437 | 914-1,523 | สั้นกว่า 914 | ||
ลาดยาง | 6 แห่ง | 11 แห่ง | 17 แห่ง | 18 แห่ง | 4 แห่ง | 56 แห่ง |
ไม่ได้ลาดยาง | — | — | 1 แห่ง | 16 แห่ง | 33 แห่ง | 50 แห่ง |
รวมทั้งสิ้น | 106 แห่ง |
ท่าอากาศยานนานาชาติ
ในปี พ.ศ. 2561 ท่าอากาศยานที่รับผู้โดยสารจากต่างประเทศมายังประเทศไทยมีทั้งหมด 11 ท่าอากาศยาน โดย ท่าอากาศยานหัวหินเป็นท่าอากาศยานล่าสุดที่ให้บริการใน เส้นทางระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย โดยท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี และท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี ยกเลิกการรับผู้โดยสารจากต่างประเทศในปีดังกล่าว ต่อไปนี้เป็นรายชื่อท่าอากาศยานที่การบินระหว่างประเทศในปี พ.ศ. 2561
- ท่าอากาศยานดอนเมือง
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
- ท่าอากาศยานเชียงใหม่
- ท่าอากาศยานภูเก็ต
- ท่าอากาศยานหาดใหญ่
- ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
- ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่
- ท่าอากาศยานนานาชาติสมุย
- ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี
- ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา
- ท่าอากาศยานหัวหิน
ท่าอากาศยานในประเทศไทยที่สามารถรับเครื่องบิน ขนาดใหญ่ชนิด โบอิง 747 มีเพียง 6 ท่าอากาศยานโดยทั้งหมด การบินไทย เครื่องทำการบินทางพาณิชย์ ได้แก่
- ท่าอากาศยานดอนเมือง
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
- ท่าอากาศยานเชียงใหม่
- ท่าอากาศยานภูเก็ต
- ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
- ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา
ท่าอากาศยานที่สามารถรับเครื่องบินขนาดใหญ่ แอร์บัส เอ380 มีเพียง 4 ท่าอากาศยาน แต่ให้บริการเชิงพาณิชย์ที่เดียวคือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สายการบิน
ในประเทศไทยมีสายการบินจำนวนมาก โดยมีการบินไทยเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การขนส่งทางน้ำ
เส้นทางน้ำสายสำคัญ 3,999 กม. 3,701 กม. เป็นเส้นทางที่มีน้ำลึกไม่ต่ำกว่า 0.9 เมตรตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเล็กๆ อีกจำนวนมาก ที่ใช้เรือขนาดเล็กเช่นเรือหางยาวในการเดินเรือ
การขนส่งในแม่น้ำลำคลอง
มีเรือโดยสารให้บริการในแม่น้ำเส้นทางต่าง ๆ จำนวนมากมายหลายบริษัท เช่น เรือด่วนเจ้าพระยา หรือเรือหางยาว เรือข้ามฟาก ส่วนเรือโดยสารในคลอง เช่น เรือโดยสารคลองแสนแสบ ให้บริการในคลองแสนแสบ ซึ่งสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
ท่าเรือและเมืองท่า
ปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือเดียวที่มีผู้โดยสารเดินทางไปกลับจากท่าเรือแหลมฉบังไปยังประเทศสิงคโปร์ และประเทศสิงคโปร์มายังท่าเรือแหลมฉบัง
เรือเดินสมุทร
เรือเดินสมุทรมีทั้งหมด 299 ลำ (ขนาดใหญ่เกิน 1,000 ตันกรอส) หรือคิดเป็นขนาด 1,834,809 ตันกรอส หรือ 2,949,558 DWT (ข้อมูลปี พ.ศ. 2542) แบ่งออกเป็น
|
|
|
|
การขนส่งทางท่อ
- ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 67 กิโลเมตร
- แก๊สธรรมชาติ 350 กิโลเมตร
อ้างอิง
- ↑ [คมนาคม ฟุ้งความสามารถแข่งขันด้านโครงสร้างพื้นฐานไทยดีขึ้นมา 1 อันดับ - คุณภาพถนนไทย ดีขึ้นพรวด 12 อันดับ https://www.khaosod.co.th/economics/news_6583756]
- ↑ บีทีเอสเล็งลงทุนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าทุกเส้น
- ↑ http://www.thairath.co.th/content/eco/176151
- ↑ BTS เผยเม.ย.54-มี.ค.55ยอดผู้ใช้รถไฟฟ้าโต 21.2%,เตรียมรับมอบขบวนรถเพิ่ม
- ↑ http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=310&contentID=87518 แอร์พอร์ตลิงก์ลด 40%
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-30. สืบค้นเมื่อ 2011-05-21.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-10-10. สืบค้นเมื่อ 2018-10-10.
- ↑ http://www.academyofmagical.com/gallery,show,141.html
แหล่งข้อมูลอื่น
- ตารางเวลาการเดินทางสาธารณะ
- thaideemove.com - ประเภทรถรับจ้าง
- 2bangkok.com - การพัฒนาการขนส่งและเหตุการณ์
- winpickup.com - บริการรถรับจ้าง
- Thailand Transportation Modes - Transportation modes.
- แผนที่ทางรถไฟ