ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แคบหมู"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขที่ 7305429 สร้างโดย 58.11.85.164 (พูดคุย)
Perves pogpoo (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยเว็บอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
[[ไฟล์:ChicharonMoleSPA.JPG|right|250px|thumb|แคบหมูใน[[เม็กซิโกซิตี]] รับประทานกับพริกแห้ง, หัวหอม ต้นหอม ผักชี และมะนาวซอย, และ[[Mole (sauce)|ซอสโมเล]] (Mole) ซึ่งทำจากพริกผสมช็อกโกแลต]]
[[ไฟล์:ChicharonMoleSPA.JPG|right|250px|thumb|แคบหมูใน[[เม็กซิโกซิตี]] รับประทานกับพริกแห้ง, หัวหอม ต้นหอม ผักชี และมะนาวซอย, และซอสโมเล (Mole) ซึ่งทำจากพริกผสมช็อกโกแลต]]
[[ไฟล์:Khaep mu.jpg|thumb|right|250px|thumb|แคบหมูที่จังหวัดเชียงใหม่ อยู่เคียงกับ[[น้ำพริกหนุ่ม]]]]
[[ไฟล์:Khaep mu.jpg|thumb|right|250px|thumb|แคบหมูที่จังหวัดเชียงใหม่ อยู่เคียงกับ[[น้ำพริกหนุ่ม]]]]
[[ไฟล์:Large Pork Scratching.png|right|250px|thumb|แคบหมูซึ่งขายในสหราชอาณาจักร]]
[[ไฟล์:Large Pork Scratching.png|right|250px|thumb|แคบหมูซึ่งขายในสหราชอาณาจักร]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:34, 24 ธันวาคม 2561

แคบหมูในเม็กซิโกซิตี รับประทานกับพริกแห้ง, หัวหอม ต้นหอม ผักชี และมะนาวซอย, และซอสโมเล (Mole) ซึ่งทำจากพริกผสมช็อกโกแลต
แคบหมูที่จังหวัดเชียงใหม่ อยู่เคียงกับน้ำพริกหนุ่ม
แคบหมูซึ่งขายในสหราชอาณาจักร

แคบหมู คือ หนังหมูหรือหนังหมูติดมันทอดให้พองและกรอบ เป็นอาหารที่ปรากฏในทุกภูมิภาคของโลก ในภาษาอังกฤษเรียก pork snack, pork rind, pork scratching หรือ pork crackling

ในประเทศไทย แคบหมูมักใช้รับประทานเป็นเครื่องเคียงอาหารอื่น ๆ เช่น น้ำพริก ก๋วยเตี๋ยว น้ำเงี้ยว ฯลฯ หรือเป็นส่วนผสมประกอบอาหารอื่น ๆ เช่น พวกน้ำพริกหรือแกง ถ้าใช้หนังสัตว์อื่น จะเปลี่ยนไปเรียกชื่อตามสัตว์นั้น ๆ เช่น แคบควาย ทำจากหนังกระบือ แต่ถ้าทำจากหนังโค จะเรียก หนังพอง

ภาพรวม

แคบหมูปรากฏในอาหารของทุกภูมิภาคที่บริโภคสุกร มักเป็นผลิตผลของการทำน้ำมันหมู และบางทีก็เป็นวิธีทำให้หนังสุกรที่หนาและแข็งนั้นรับประทานสะดวกขึ้น ในวัฒนธรรมโบราณหลายรูปแบบ น้ำมันสำหรับปรุงอาหารนั้นได้มาก็แต่โดยอาศัยไขมันสัตว์ นอกจากนี้ แคบหมูยังเคยใช้เป็นอาหารควบคุมน้ำหนัก จนกระทั่งมีการปฏิวัติอุตสาหกรรม น้ำมันพืชจึงค่อยแพร่หลายขึ้น

แคบหมูแบบอุ่นด้วยเตาไมโครเวฟก็มีขาย มีลักษณะทำนองเดียวกับข้าวโพดคั่วที่อุ่นด้วยเตาไมโครเวฟ และจะบริโภคเสียในขณะที่ยังอุ่นอยู่นั้นก็ได้ ส่วนแคบหมูหมักมักแช่เย็นและรับประทานกันเย็น ๆ แต่แคบหมูหมักนี้ต่างจากแคบหมูทอดตรงที่มีความมันและเค็มเป็นอันมาก คล้ายคลึงกับฟัวกรา (foie gras)

ประเด็นสุขภาพ

แคบหมูมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ จึงใช้เป็นของคบเคี้ยวทางเลือกตามการควบคุมน้ำหนักแบบแอตกินส์ (Atkins diet) ทว่า แคบหมูมีไขมันและโซเดียมสูง ไขมันในแคบหมูนั้นทัดเทียมกับในมันฝรั่งทอด ขณะที่โซเดียมในแคบหมูซึ่งบริโภคแต่ละครั้งนั้นมีปริมาณมากกว่าที่ได้จากการบริโภคมันฝรั่งทอดครั้งหนึ่ง ๆ ถึงราวห้าเท่า นิตยสาร เมนส์เฮลธ์ (Men's Health) ประเมินว่า การบริโภคแคบหมูครั้งละยี่สิบแปดกรัม (หนึ่งออนซ์) จะได้โปรตีนมากกว่าการบริโภคมันฝรั่งทอดถุงหนึ่งราวเก้าเท่า และในแคบหมูชนิดไขมันต่ำ มีไขมันน้อยกว่ามันฝรั่งทอดชนิดไขมันสูง แต่ในขณะที่97%ของไขมันในมันฝรั่งทอดเป็นไขมันไม่อิ่มตัว มีเพียงร้อยละ43ของไขมันแคบหมูนั้นไม่อิ่มตัว ส่วนใหญ่เป็นกรดโอเลอิก (oleic acid) อันเป็นไขมันที่เป็นผลดีต่อสุขภาพชนิดเดียวกับที่พบในน้ำมันมะกอก ขณะที่อีกร้อยละสิบสามของไขมันแคบหมูนั้นเป็นกรดสตีแอริก (stearic acid) อันเป็นไขมันอิ่มตัวที่เชื่อกันว่าไม่เพิ่มระดับคอเลสเทอรอล แต่ทั้งนี้เมื่อนับปริมาณไขมันอิ่มตัวในแคบหมู ก็มีถึง53% ซึ่งยังนับว่าเป็นอาหารไขมันสูงอยู่ดี[1]

ในภูมิภาคต่าง ๆ

ประเทศแคนาดา

ในประเทศแคนาดาเรียกแคบหมูต่าง ๆ กันไปตามภูมิภาค เช่น ในรัฐนิวฟันด์แลนด์เรียก "สกรันเชียน" (scrunchion) มักเป็นแคบหมูชิ้นเล็ก ๆ นิยมใช้เป็นเครื่องชูรสอาหารอื่น เช่น ปลาเค็ม และใช้ปรุงอาหารที่เรียก "ปลากับบรูอิส" (fish and brewis) ส่วนในรัฐควิเบกเรียกแคบหมูว่า "ออเรยเดอกริสต์" (oreilles de Christ) แปลว่า พระกรรณพระคริสต์ เพราะมักใช้บริโภคเป็นส่วนหนึ่งของอาหารกาบานอาซูเกร (cabane a sucre) ตามประเพณี

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น